วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555


เทคนิค! วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
เชื่อว่าคุณผู้หญิงหลายท่านกำลังมองหาวิธีการกินอาหารลดความอ้วนกันอยู่ใช่ไหมค่ะ และวันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็มี วิธีการกินอาหารลดความอ้วน มาฝากกันด้วยค่ะ อย่าลืมทำตาม วิธีการกินอาหารลดความอ้วน กันอย่างเคร่งครัดเชื่อได้เลยค่ะว่า หุ่นสวย หุ่นดี ไม่ไกลเกินเอื้อมจากความพยายามของคุณผู้หญิงกันอย่างแน่นอนค่ะ และเทคนิค วิธีการกินอาหารลดความอ้วน ที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) นำมาแนะนำกันในวันนี้ก็เป็น วิธีการกินอาหารลดความอ้วน ซึ่งก็ง่ายๆ เชื่อว่าคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านคงทำตามกันได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ นั้นเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) พาคุณผู้หญิงมาพบกับ 35 วิธีการกินอาหารลดความอ้วน กันเลยดีกว่าไหมจ๊ะ
35 วิธีการกินอาหารลดความอ้วน


1. รับประทานผัก ผลไม้มากๆอย่าละเลยการรับประทานผัก ผลไม้ เด็ดขาดค่ะ เพราะ ผัก ผลไม้ มีทั้งเส้นใยและสารอาหารต่างๆ ที่ดีกับคุณสาวๆ แถมทานมากเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนด้วย2. หลีกเลี่ยงการทานอาหารทอดๆ และติดมัน
อาหารทอดๆ มาพร้อมกับน้ำมันที่จะมาทำให้คุณอวบอั๋นขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับอาหารเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น กุนเชียง หมูสามชั้นทอดกรอบ หนังไก่ กากหมู ถ้าไม่อยากอ้วน อดใจไว้ค่ะ
3. ทานดาร์กช็อกโกแลต
ใช่ค่ะคุณหูไม่ฝาดเรากำลังแนะนำให้คุณทานช็อกโกแลต แต่ไม่ใช่ว่าช็อกโกแลตทั่วๆ ไปก็ทานได้หรอกนะค่ะ ต้องเป็นดาร์กช็อกโกแลตเท่านั้นถึงจะมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์และเป็นประโยชน์กับร่างกายของคุณสาวๆ
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
แทบจะทุกบทความ ที่แนะนำให้คุณดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จึงช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินให้คุณด้วย ซ้ำยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นด้วย หากคุณดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนทานอาหารทุกครั้ง แต่อย่าชะแว้บ! ไปมอง "น้ำอัดลม" หรือ "น้ำผลไม้" เชียว ยกเว้น "น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง" ที่เราแนะนำให้คุณดื่มได้
5. ดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วหลังตื่นนอน
จำและทำให้เป็นนิสัยเพราะการดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้ว ทันทีหลังจากที่คุณเพิ่งตื่นนอนจะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายทั้งหนักทั้งเบาทำงานได้อย่างคล่องตัว
6. ทานอาหารเช้า
จำได้ไหมว่า อาหารเช้าคืออาหารมื้อสำคัญที่สุดของวัน ถ้าหากคุณสาวๆ พลาดอาหารเช้าในช่วงเวลา 6.00-10.00 น. ไปล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกหิวในมื้อต่อๆ ไปมากขึ้น ทีนี้ล่ะคุณอาจจะเผลอตัวเผลอใจสวาปามอาหารที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ยั้งแล้วจะลดน้ำหนักได้อย่างไรล่ะจ๊ะ
7. กินเพื่ออยู่ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
การไดเอทไม่ได้สำคัญที่ว่าคุณทานอะไรเข้าไป แต่สำคัญที่ว่าทำไมคุณถึงทานเข้าไปต่างหาก ฉะนั้นแล้วหากใครชอบกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์เพียงเพื่ออยากทานสิ่งนั้นจงเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนค่ะ ทานให้แต่พออิ่มจะดีกว่า และควรทานเมื่อเวลาที่หิวจริงๆ
8. ออกกำลังกายสำคัญสุดๆ
แน่นอนว่าหนึ่งในวิธีที่คนทั่วโลกแนะนำก็คือ การออกกำลังกายนี่แหละเพราะมันจะช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ในระยะยาวได้ แถมยังจะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีให้กลายเป็นพลังงานได้คราวละมากด้วย หากคุณสาวๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอลองหาเวลาเดินวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน นอกจากคุณจะควบคุมน้ำหนักได้ดีแล้วยังจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอีกด้วยล่ะ
9. หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไดเอท
เขาว่า "คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย" ใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นอย่ามาท้อแท้กับการไดเอทเพียงลำพังเลย ลองหาเพื่อนที่มีแนวคิดเดียวกันแล้วชวนมาลดความอ้วนด้วยกันดีกว่า เพราะการมีเพื่อนหัวอกเดียวกันจะทำให้คุณมีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
10. อย่ากักตุนอาหารในตู้เย็น
สาวๆ มักจะชอบซื้ออะไรต่อมิอะไรมาเก็บไว้ในตู้เย็น อ้างว่า เตรียมไว้รับรองแขกบ้าง ไว้เลี้ยงเพื่อนบ้างล่ะ แต่สุดท้ายก็มักจะเหลือเต็มตู้เย็นจนคุณสาวๆ นั่นแหละต้องมาทานเอง เพราะฉะนั้นหากไม่อยากอ้วนกำจัดของกินในตู้เย็นโดยด่วน คุณจะได้ไม่เผลอหยิบติดมือมาทานได้ง่ายเกินไปนั่นเอง แต่ถ้าอยากจะมีอาหารติดในตู้เย็นแนะนำว่า ผักผลไม้และบรรดาอาหารเพื่อสุขภาพทั้งหลายจะเวิร์กที่สุดค่ะ

วิธีการกินอาหารลดความอ้วน

11.อย่ากินไป ดูทีวีไป
วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
12. ใส่ใจ "ข้าวกล้อง" กันให้มากขึ้น

วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
13. "น้ำตาล" และ "เกลือ" จอมวายร้าย

วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
14. ระวัง!!! สลัดน้ำข้น
วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
15. สรรหาจานสีเข้มๆ
วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
16. ใช้ภาชนะให้เล็กลง
วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
17. ลด ชา , กาแฟ , ครีมเทียม

วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
18. เคี้ยวช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม
วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
19. หลีกเลี่ยงไข่แดง ให้ทานไข่ขาว
วิธีการกินอาหารลดความอ้วน
20. อย่าให้รางวัลตัวเองด้วยการไปทานอาหาร
สอบผ่าน! โปรเจกท์ผ่าน! พรีเซนต์งานผ่าน! ไปฉลองกันดีกว่า!!! หยุดความคิดนี้เลยค่ะ เพราะการที่คุณให้รางวัลกับความสำเร็จของตัวเองด้วยการไปรับประทานอาหารตามใจปากอาจทำให้คุณอ้วนได้เหมือนกัน ทางที่ดีให้รางวัลกับตัวเองด้วยการทำสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ยกเว้นเรื่องกิน!!! เช่น ไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยวพักผ่อน นวดหน้า ทำผม ขัดผิว ฯลฯ จะดีที่สุดค่ะ



21. จำไว้อย่าอด
ใช่ว่าการไดเอทคือการอดอาหาร เพราะยิ่งคุณอดอาหารเท่าไหร่จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังทำให้คุณหิวมากขึ้นมากขึ้นจนทำให้คุณสามารถทานได้มากกว่าปกติในมื้อต่อไป

22. แบ่งทานบางส่วนไม่ต้องทานให้หมด
สาวๆ หลายคนบ่นเสียดายอาหารที่อยู่ตรงหน้าไม่อยากเหลือทิ้งไว้ แต่สำหรับกฎเกณฑ์ของการลดความอ้วนคุณไม่จำเป็นต้องทานหมดหรอกค่ะ โดยคุณควรจะแบ่งอาหารในจานไว้ 4 ส่วน แล้วทานเพียงแค่ 3 ส่วนก็เพียงพอแล้ว

23. อย่าทานอะไรหลังมื้อเย็นอีก
ไม่ดีแน่หากคุณทานขนมหรืออาหารอะไรหลังจากคุณทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีคือควรจะให้ร่างกายได้พักผ่อนจากการย่อยอาหารแล้วไปเริ่มทำงานใหม่ในมื้อเช้าของวันรุ่งขึ้นจะดีกว่า

24. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า หากคุณพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพออาจจะมีผลกระทบต่อฮอร์โมนเลปตินซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ดังนั้น อาจทำให้คุณยับยั้งชั่งใจในการรับประทานไม่อยู่และอ้วนขึ้นได้ นอกจากนี้หากคุณนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วก็สามารถช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้เช่นกัน

25. ทานหลายๆ มื้อเล็กๆ ในหนึ่งวัน
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การทานอาหาร 4-5 มื้อเล็กๆ ในแต่ละวัน จะช่วยควบคุมระบบการเผาผลาญและความอยากอาหารได้ดีกว่าการทานอาหารมื้อปกติ 3 มื้อ โดยระหว่างมื้ออาหารคุณอาจทานสแน็กหรือผลไม้เพื่อให้คุณอิ่ม และไม่หิวมากจนกระทั่งถึงมื้อต่อไป ทีนี้ในมื้อต่อไปคุณก็จะทานอาหารได้น้อยลงแล้ว

26. โปรตีนตัวช่วยลดความอ้วนในทุกๆ มื้อ
มีคำแนะนำให้ในแต่ละมื้ออาหารต้องมีอาหารประเภทโปรตีนผสมด้วย เพราะโปรตีนจะช่วยคงสภาพกล้ามเนื้อและกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น โดยโปรตีนที่แนะนำก็คือ อาหารจำพวกถั่ว นม โยเกิร์ตนั่นเอง

27. เผ็ดหน่อยอร่อยดี
การศึกษาพบว่า "พริก" ช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายและช่วยในการเผาผลาญจึงมีประโยชน์เรื่องการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้การกินพริกจะไม่ทำให้รู้สึกอยากกินหวานอีก รับรองว่า กินพริกแล้วลืมเรื่องความอ้วนไปได้เลย

28. ดื่มชาเขียว
มหาวิทยาลัยสวิสเซอร์แลนด์พบว่า การดื่มชาเขียวเป็นทางหนึ่งที่ช่วยลดน้ำหนักเพราะจะช่วยเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่ได้ ดังนั้นควรพยายามดื่ม 3 ถ้วยต่อวัน แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า ต้องเป็นชาเขียวบริสุทธิ์จริงๆ ไม่ใช่ชาเขียวในขวดที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมากแบบนี้ลดความอ้วนไม่ได้แน่นอนค่ะ

29. ดื่มนมก็ช่วยลดความอ้วน
หากไม่ชอบดื่มชาเขียวจะลองหันมาดื่มนมก็ช่วยลดความอ้วนได้เพราะนมเป็นแหล่งอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งมีการศึกษาพบว่า การที่ร่างกายได้รับวิตามินดีและแคลเซียมสูงจะช่วยให้น้ำหนักของเราลดลงได้แถมนมยังทำให้เรารู้สึกอิ่มจนไม่อยากทานอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรที่มีน้ำตาลด้วย

30. อ่านฉลากรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ด้วยล่ะ
ก่อนซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มลองอ่านรายละเอียดที่ติดอยู่ข้างผลิตภัณฑ์ หีบห่อ ฯลฯ ดูก่อนทุกครั้ง เพราะมันจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรีสูงหรือไขมันสูงได้ แต่ขอย้ำว่ายามใดที่ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตควรหลีกเลี่ยงการไปเดินในบริเวณที่ขายคุ้กกี้ พิซซ่าแช่แข็ง และไอศกรีม เพราะคุณอาจจะไม่ทันได้อ่านฉลากข้างกล่องก็ซื้อมันได้ง่ายๆ เพราะติดใจในความอร่อยของมันนั่นเอง

31. จดบันทึกประจำวันให้เป็นนิสัย
แต่ละวันคุณกินอะไรไปบ้างลองจดบันทึกไว้ทุกๆ สัปดาห์ดูสิ เพราะมันจะช่วยให้คุณยับยั้งชั่งใจและควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารได้ดีเลยทีเดียว

32. ทานผลไม้สดดีกว่าผลไม้ดองหรือน้ำผลไม้ปั่น
น้ำผลไม้ปั่นมักผสมน้ำเชื่อม น้ำตาล ทำให้คุณสาวๆ ได้รับน้ำตาลเกินความจำเป็น ขณะเดียวกัน ผลไม้ดอง ก็อาจมีสารแซคคารีนหรือที่เรียกว่าขัณฑสกรผสมอยู่ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้วิตามินที่ครบถ้วน เลือกทานผลไม้สดดีกว่าแน่นอนค่ะ

33. ความเครียด คือ จุดอ่อน
รู้ไหมคะว่าเมื่อฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้นก็ทำให้ความต้องการอาหารในร่างกายเพิ่มขึ้นหรือทำให้หิวนั่นเองแถมหิวบ่อยชนิดที่ไม่รู้ตัวเลยด้วย เพราะคนเครียดส่วนใหญ่มักจะจมอยู่กับความเครียดจนลืมสังเกตพฤติกรรมการกินของตัวเอง ดังนั้นทำตัวเองให้ห่างไกลจากความเครียดเถอะค่ะ

34. หัวเราะช่วยลดความอ้วน
งานวิจัยระบุว่า การหัวเราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นขณะเราหัวเราะจะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้มากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อท้องได้ออกกำลังไปในตัว

35. ชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้ง
ไม่จำเป็นที่คุณจะรีบร้อนชั่งน้ำหนักตัวทุกๆ วัน เพราะหากคุณลดไม่ได้ดังใจปรารถนาแล้วจะยิ่งทำให้คุณเครียดเสียเปล่าๆ เพราะฉะนั้น ชั่งน้ำหนัก และเปลือยกายสำรวจตัวเองในห้องน้ำอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้วล่ะ


อ้างอิงจากเว็บ change slim


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น